Wednesday, March 31, 2010

Pretty Motor Show 2010 Bitec -2











นิสสันเปิดตัวนิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่อีก 4 รุ่น

2009 11 12 : นิสสันเปิดตัวนิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่อีก 4 รุ่น

กรุงเทพฯ (12 พฤศจิกายน 2552) – บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนยลโฉมรถยนต์รุ่นใหม่จากนิสสันที่จะเปิดโชว์ครั้งแรกในงานไทย แลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ที่กำลังจะมาถึง โดยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นต่างๆ ครั้งนี้ เป็นการเสริมความสามารถในการแข่งขันเพื่อช่วยส่งเสริมยอดขายของนิสสัน และช่วยให้บรรลุถึงเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2555

รถยนต์ที่ถูกนำมาโชว์มีดังนี้ :



- การเปิดตัวรถยนต์เอสยูวี “เอ็กซ์เทรล (All-New X-TRAIL)” โฉมใหม่ถอดด้ามซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ ซึ่งพร้อมสำหรับการขายในประเทศไทยในช่วงต้นปี 2553

- รถยนต์หรูหรามีสไตล์ รุ่นใหม่ “เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์” ด้วยรูปโฉมภายในสีดำใหม่ที่มาพร้อมชุดแต่ง (Aerokit Parts) นิยามใหม่สำหรับการออกแบบที่เฉียบคมและอุปกรณ์เสริมการทำงานที่ใช้งานได้จริง

- นิสสัน “ทีด้า นิสโม” รุ่นลิมิเต็ด และ “นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น” ใหม่ และ

“นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น”

สินค้าทั้งหมดนี้มีแผนที่จะจำหน่ายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป2009

ผู้เข้าเยี่ยมชมในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป จะได้พบกับยานยนต์คุณภาพของนิสสันเต็มรูปแบบซึ่งประกอบด้วย นิสสัน 370Z, นาวาร่า, เทียน่า, เอ็กซ์เทรล, ทีด้า และทีด้า ลาติโอ้, เออร์แวน และแคมเปญโปรโมชั่นที่เร้าใจในงานนี้

ข้อมูลรถรุ่นลิมิเต็ดต่างๆ ที่จัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009:
ทีด้า นิสโม
การปรับแต่งรถยนต์ด้วยจูนเนอร์ แอโรว์คิท พาร์ท ภายใต้แบรนด์นิสโม ซึ่งเหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับทีด้ารุ่น 1.6G และ 1.8G เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์จากประสบการณ์ด้านการขับขี่จากบริษัทนิสสัน มอเตอร์สปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แห่งประเทศญี่ปุ่น
· แอโรว์คิทคุณภาพสูงเพื่อช่วยให้นิสสันทีด้า มีรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและช่วยตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหาแอโรว์คิท พาร์ท คุณภาพเยี่ยม
· แอโรว์คิท พาร์ท 5 อย่าง ประกอบด้วย สเกิร์ตด้านหน้า สเกิร์ตด้านซ้ายและขวา สเกิร์ตด้านหลัง สปอยเลอร์ด้านหลัง สติกเกอร์ NISMO ด้านข้าง และสติกเกอร์ (S-tune)
· พิเศษ! ทีด้า นิสโม แอโรว์คิท มาพร้อมการรับประกันนานถึง 3 ปี หรือระยะทาง 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น
นาวา ร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น มาพร้อมกับคุณลักษณะที่ล้ำหน้า ทำให้นาวาร่า คาลิเบอร์ ออโตเมติก รุ่นใหม่ เป็นรถปิคอัพที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริงด้วยสมรรถนะที่ “เหนือกว่า” ในทุกๆ ด้าน
· การผสมผสานของการออกแบบที่พิเศษไม่เหมือนใคร คุณลักษณะเฉพาะที่หลากหลาย พร้อมด้วยคุณค่าที่โดดเด่น นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น สีขาวมุก มีเพียงจำนวนจำกัดเท่านั้น
· นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น มาพร้อมกับโรลบาร์รูปแบบใหม่ไม่เหมือนใคร พื้นปูกระบะท้าย กันชนหน้า และแอลอีดี คิค เพลท

นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น

นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น มาพร้อมกับเครื่องเล่นดีวีดี แบรนด์เคนวูด เป็นระบบสัมผัสหน้าจอหรือทัชสกรีนที่ทันสมัย
· นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น มาพร้อมกับแอลอีดี คิค เพลท และ กันชนหน้า

เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่


บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์ เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่ ซึ่งเป็น รถอเนกประสงค์ (Sports Utility Vehicle - SUV) ซึ่งจะจำหน่ายในต้นปี 2553 นิสสัน เปิดตัว เอ็กซ์เทรล เป็นครั้งแรกในตลาดของประเทศไทยเมื่อปี 2547 รถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถ SUV อเนกประสงค์ที่แข็งแกร่งทนทาน ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่มองหาคฟามตื่นเต้นจากการขับขี่ทั้งแบบออฟโรดและออนโรด

ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เอ็กซ์เทรล ขับเคลื่อนด้วยพลังเครื่องยนต์ขนาด 2.0L (MR20DE) พร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ Xtronic CVT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าแบบเดียวกับที่ใช้ในนิสสัน เทียน่าใหม่ ลูกค้าจะได้รับความเพลิดเพลินจากการขับขี่ควบคู่ไปกับการประหยัดเชื้อเพลิง

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ
ลักษณะเด่นของ เอ็กซ์เทรล รุ่นใหม่ประกอบด้วยระบบส่งกำลังแปรผันอัจฉริยะ XTRONIC Continuously Variable Transmission (CVT-M6) ซึ่งมีโหมดการเปลี่ยนระบบส่งกำลังพิเศษแบบ 6 สปีด ที่มาพร้อมกับการควบคุมการทำงานด้วยระบบที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ เรียกว่า Adaptive Shift Control (ASC) ที่จะปรับให้สอดคล้องกับรูปแบบการขับขี่ส่วนบุคคลของผู้ขับขี่ และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและประหยัดเชื้อเพลิง

ออกแบบเป็นรถ SUV เอนกประสงค์ อย่างแท้จริง

รถยนต์นิสสัน เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่ยังคงมีชื่อเดิมอยู่ ซึ่งเป็นชื่อที่บ่งบอกสายพันธุ์ SUV ที่ มีสมรรถนะที่โดดเด่นและเป็นเลิศเท่านั้น นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นแรกที่เน้นความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจุดสำคัญที่ทำให้รถเอ็กซ์เทรลตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ทุกรูปแบบ

รูปลักษณ์ของ เอ็กซ์เทรล ใหม่ถูกทำให้แข็งแกร่งแน่นหนาเพื่อความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นและลด NVH นอกจากนี้ได้มีการนำเอาการคำนวณเชิงตัวเลขสำหรับกลศาสตร์ของไหล (Computational Fluid Dynamics: CFD) มาใช้เพื่อวิเคราะห์และออกแบบตัวถังของ X-TRAIL ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ส่งผลให้มีสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น

สุดยอดการใช้งาน
ห้อง โดยสารของ เอ็กซ์เทรล ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใหญ่สี่คนสามารถเดินทางทุกรูปแบบได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารภายในได้รับการแต่งใหม่เพื่อใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นที่วางแนวมาจากแผงหน้าปัดรถยนต์จนถึงขอบประตูที่เหมาะ เจาะลงตัวทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องที่กว้างขวาง เบาะนุ่มแบบใหม่บนแผงหน้าปัดรถยนต์ ขอบประตู และที่พักแขนช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายอย่างแท้จริง

พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังของ เอ็กซ์เทรล กว้างขวางกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องยกความดีให้กับโช๊คหลังที่ได้รับการปรับตำแหน่งให้เอื้อประโยชน์ในการใช้สอยพื้นที่มากขึ้น โดยที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 603 ลิตร (ตามมาตรฐาน VDA) พื้นที่เก็บสัมภาระมีแผ่นรองพื้นห้องสัมภาระแบบล้างทำความสะอาดได้และมี ลักษณะเป็นลอนเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของลื่นไหล มีช่องเก็บของพร้อมแผ่นกั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ซึ่งอยู่ใต้บอร์ดเก็บสัมภาระ ทำให้มีที่เก็บของพร้อมฝาปิด

ยอดจำหน่ายเจเนเรชั่นแรกของรถ เอ็กซ์เทรล จำนวนมากกว่า 800,000 คัน ใน 167 ประเทศทั่วโลก ส่วนในรุ่นนี้เปิดตัวให้ชมเป็นครั้งแรกที่งานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ เมื่อเดือนมีนาคม 2550 และประสบความสำเร็จจากยอดขายถึง 140,000 คันส่วนในประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์เทรล รุ่นนี้มียอดขาย 27,001 คัน ทำให้รถเอ็กซ์เทรล ประสบความสำเร็จเป็นรถยนต์ อเนกประสงค์ ที่ยอดขายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 เป็นเวลาสองปีติดต่อกัน
นิสสัน เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์

นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวนิสสัน เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ เพื่อเติมเต็มความต้องการสำหรับรูปโฉมภายในและภายนอกแบบใหม่ที่เป็นแนวสปอร์ต

เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ เป็นจุดเริ่มต้นของการให้อะไหล่และแบบตามสั่งเพื่อให้ผู้ชื่นชอบรถยนต์นิสสันตื่นเต้นและประทับใจ
แอโรว์บอดี้คิต แบบใหม่

เมื่อความหรูหรามาผสานกับความเป็นสปอร์ตที่ลงตัว นิสสันได้นำเอาเทียน่าแบบมาตรฐานมาปรับสไตล์ด้วยแอโรว์บอดี้คิตรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังคงรูปร่างที่เรียบหรูมีสไตล์ดังเดิมได้ นี่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ แบบแอโรว์ไดนามิคและความมั่นคงในการขับขี่แบบไฮ-สปีดให้มากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้รักการขับขี่แบบสปอร์ต อะไหล่ต่างๆ ประกอบด้วย กระจังหน้าโฉมใหม่อารมณ์สปอร์ตปราดเปรียวทุกมุมมอง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลัง
รูปลักษณ์ภายในแบบใหม่

นิสสัน เทียน่า ได้รับการออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ความหรูหราและการผ่อนคลายแบบทันสมัย ชัดเจนด้วยแนวเส้นตัวถังรถที่สง่างามและส่วนโค้งทั่วทั้งคัน เป็นการรวมเอาความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกแนวคิด "Modern Living" หรือห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ นิสสัน เทียน่า ค่อยๆ พัฒนาปรับปรุงการออกแบบภายในเพื่อเน้นที่ความผ่อนคลายของผู้โดยสาร

ภายในห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยอรรถประโยชน์เพื่อการใช้งานได้ตามความต้องการ นิสสัน เทียน่า สปอร์ตซีรีส์ใหม่มาพร้อมกับเบาะนั่งผู้ขับที่มีนวัตกรรมหน่วยความจำ (Memory Seat) ม่านถุงลมนิรภัยใหม่ ซันรูฟและสีภายในสีดำใหม่ ช่วยเน้นย้ำนิยามของความประณีตของรถยนต์ซีดานคันหรู ได้อย่างไม่มีที่ติ

นิสสันเทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ รุ่นใหม่ มีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 2.0L และ 2.5L พร้อมระบบนำร่อง (Navigator) และ 2 สีคลาสสิค คือ สีดำและขาวมุกเท่านั้น

# # #


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

Nissan คว้ารางวัล Car Of the Year 2010 จากนิตยสาร เวิร์ดกรังปรีซ์

“CAR OF THE YEAR AWARDS 2010”
นิสสันคว้า 3 รางวัล “CAR OF THE YEAR AWARDS 2010” จากนิตยสารกรังด์ปรีซ์
กรุงเทพฯ (26 มีนาคม 2553) – “MARCH-TEANA-NAVARA” คว้ารางวัล “CAR OF THE YEAR 2010” จากนิตยสารกรังด์ปรีซ์ ย้ำภาพลักษณ์ยานยนต์ชั้นนำ ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31
นายโทรุ ฮาเซกาว่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในการประกาศรางวัล “Car Of The Year” โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วันนี้ (26 มีนาคม 2553) รถยนต์ NISSAN จำนวน 3 รุ่นอันได้แก่ MARCH, TEANA และ NAVARA 4x4 ได้รับการยกย่องให้เป็นรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2553
ทั้งนี้ รางวัล “Car Of The Year” ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการและยกระดับอุตสาหกรรมยาน ยนต์ไทยให้พัฒนาทัดเทียมกับระดับสากล เนื่องจากคณะกรรมการจะคัดเลือกรถยนต์ที่ดีที่สุด โดยพิจารณาเปรียบเทียบคุณสมบัติด้านต่างๆ ทั้ง เรื่องของการออกแบบ ความสบาย ประหยัดน้ำมัน การทรงตัว สมรรถนะ การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ความพึงพอใจจากลูกค้า และความคุ้มค่า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังจะได้รับประโยชน์ในการนำผลการตัดสินไปพิจารณาเพื่อเลือกซื้อรถ ยนต์ที่ดีที่สุดด้วย
“รางวัล อันทรงคุณค่าที่นิสสันได้รับครั้งนี้ คือความภาคภูมิใจของชาวนิสสันทุกคน และเชื่อว่าจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์นิสสันในประเทศไทยให้ เพิ่มขึ้น” มร.โทรุ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นิสสัน กล่าว
สำหรับรถยนต์ นิสสัน ทั้ง 3 รุ่นที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ได้แก่

- นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา 4x4 ได้ รับรางวัล “Best Pick-up 4WD under 2,500 c.c.”

นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา 4x4 ได้รับรางวัล “Best Pick-up 4WD under 2,500 c.c.” ถึง 3 ปีซ้อน เนื่องจากเป็นรถกระบะที่ตอบสนองความต้องการทุกด้านของผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทันสมัยเหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 174 แรงม้า ที่ให้แรงบิดสูงที่ 403 นิวตันเมตร ทำให้สามารถบรรทุกของได้จำนวนมาก และมีเทคโนโลยีเหนือระดับ กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

- นิสสัน เทียน่า 250 XV V6 ได้รับรางวัล “Best Mid-size Sedan under 2,500 c.c.”

นิสสัน เทียน่า 250 XV V6 เป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่ต้องการรถที่มีรูปลักษณ์หรูหราทัน สมัย ด้วยการตกแต่งห้องโดยสารภายในทีให้ความรู้สึกสบาย และเงียบตลอดการขับขี่

- นิสสัน มาร์ช อีโคคาร์ ได้รับรางวัล “Most Environmental Friendly Car”

นิ สสัน มาร์ช คันแรกที่พัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่ โดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นรถที่ได้รับการออกแบบในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและกว้างขวาง รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการใช้งาน และที่สำคัญ มาร์ชยังเป็นรถที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ภายใต้ข้อกำหนดที่เข้มงวดตามมาตรฐานยุโรป (EURO 4)

Monday, March 29, 2010

ราคา Toyota Altis CNG



ราคา Toyota Altis 2.0V Navi A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,184,000 บาท
ราคา Toyota Altis 2.0V A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,044,000 บาท
ราคา Toyota Altis 2.0G A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 949,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.8 G A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 904,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.8 E A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 849,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.6 G A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 819,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.6 E A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 784,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.6 J A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 764,000 บาท
ราคา Toyota Altis 1.6 J M/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 739,000 บาท
ราคา Toyota Altis CNG 1.6 พิเศษ ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 746,000 บาท

Friday, March 26, 2010

รวมแคมเปญมอเตอร์โชว์ 2010 วางดาวน์ต่ำ ผ่อน 72 เดือน


ค่ายรถแข่งเดือดงัดแคมเปญ กระตุ้นยอดขายกระหึ่ม "มอเตอร์โชว์" ผู้จัดคาดเงินสะพัด 4.5 หมื่นล้าน ชี้เทรนด์ "เก๋งเล็ก" มาแรง ทุกค่ายโหมสารพัดวิธี แลกรถ-ดาวน์น้อย-ปลอดดอก-ผ่อนเจ็ดชั่วโคตร เตะสกัดอีโคคาร์ ในขณะที่นิสสันชูแคมเปญผ่อนแค่ 4 พันกว่าบาทต่อเดือนก็เป็นเจ้าของได้

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานมอเตอร์โชว์และประธานบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป กล่าวถึง งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2553 ว่า แม้จะมีปัจจัยลบหลายด้านโดยเฉพาะการเมือง แต่บริษัทยังมั่นใจว่าปีนี้จะมียอดจองรถยนต์ภายในงานเพิ่มขึ้น 20% หรือ 20,000 คัน จากปีก่อน 18,000 คัน และจะมีเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 45,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 40,000 ล้านบาท ส่วนผู้เข้าชมงานตั้งเป้าไว้เท่าปีก่อนคือ 1.8 ล้านคน สำหรับกลุ่มรถยนต์ที่คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมยังคงเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์โลก ซึ่งบรรดาค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้ขนเอาแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษมาช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นยอดขายกันอย่างเต็มเหนี่ยว


ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รวบรวมแคมเปญที่น่าสนใจ เริ่มต้นกันที่เจ้าตลาด "โตโยต้า" เตรียมแคมเปญพิเศษมากมาย "วีออส" และ "ยาริส" ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น1 GOA หรือเลือกรับบัตรกำนัลโตโยต้า มูลค่า 12,000 บาท "อัลติส" เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นซีเอ็นจี รับฟรีประกันภัยชั้น 1 GOA หรือบัตรกำนัลโตโยต้ามูลค่า 14,000 บาท "ไฮลักซ์ วีโก้" รับฟรีประกันภัยชั้น 1 GOA หรือบัตรกำนัลโตโยต้ามูลค่า 12,000 บาท ก่อนหน้านี้โตโยต้าได้เปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็ก "วีออส ไมเนอร์เชนจ์" พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลให้กับกลุ่มลูกค้าที่ยังลังเลใจว่าจะซื้อรถยนต์นั่งขนาดเล็กยี่ห้อใดดี

สำหรับค่าย "นิสสัน" หลังจากเปิดตัวอีโคคาร์ "นิสสัน มาร์ช" คันแรกของโลกและเมืองไทยซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดจองมากกว่า 2,000 คันแล้ว ได้นำเสนอแพ็กเกจทางการเงินด้วยเงื่อนไข ซื้อวันนี้ ดาวน์ต่ำ ผ่อนนาน ไม่ต้องค้ำประกัน ดาวน์เริ่มต้นเพียง 10% หรือดาวน์ 25% ผ่อนเพียงเดือนละ 4,424 บาท เกียร์ธรรมดาส่งมอบได้ทันที เกียร์อัตโนมัติรอรับรถเดือนมิถุนายน

ขณะที่ "นาวาร่า" คิดดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1.99% ดาวน์ 20% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท ดาวน์ 38% ดอกเบี้ย 2.89% ผ่อนชำระ 72 เดือน หรือดาวน์ต่ำเพียง 59,999 บาท ดอกเบี้ย 4.29% ผ่อนชำระ 60 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี "ทีด้า" ดอกเบี้ยพิเศษ 2.79% ดาวน์ 20% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน หรือผ่อนเพียงเดือนละ 8,999 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
"ฮอนด้า" ในฐานะบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ ตัดสินใจปล่อยภาพอีโคคอนเซ็ปต์มาเพื่อเป็นการเปรียบเทียบกับค่ายคู่แข่ง และแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าฮอนด้าพยายามนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า และถ้าลูกค้าอดใจรออีโคคาร์ฮอนด้าจะออกสู่ตลาดได้ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนแคมเปญนั้นสำหรับคนซื้อ "แจ๊ซ" มอบส่วนลด 5,000 บาท หรือเลือกเป็นของแถมเท่ามูลค่าส่วนลด "ซีวิค" มอบของแถมมูลค่า 20,000 บาท

ขณะที่ค่าย "ฟอร์ด" ได้ส่งรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่าง "ฟอร์ด เฟียสต้า" ใหม่ ทั้งรุ่น 4 และ 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ และยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า เริ่มต้นที่ "ฟอร์ด โฟกัส" อี 20 ดาวน์เพียง 20% ผ่อนนาน 48 เดือน และดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

สำหรับ "มาสด้า 2" ทั้งสปอร์ตแฮตช์แบ็ก 5 ประตู หรือซีดาน 4 ประตู รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี รถสปอร์ตปิกอัพมาสด้า "บีที-50" รับเงื่อนไขพิเศษดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.79% พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี รถยนต์นั่งสปอร์ต "มาสด้า 3" ราคาใหม่เริ่มต้นเพียง 755,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราพิเศษเพียง 2.19% เท่านั้น ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร รับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี

"MX-5" หลังคาไฟฟ้า รับเงื่อนไขพิเศษด้วยการรับประกันคุณภาพนานถึง 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง นิวมาสด้า "CX-9" รถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมกันนี้มาสด้าทุกรุ่นยังรับประกันนานสูงสุดถึง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง หรือ "24 Hrs Mazda Roadside Assistance" ฟรีนาน 3 ปี

"มิตซูบิชิ" ทุกรุ่นเน้นดอกเบี้ยต่ำ ฟรีประกันภัย บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ส่วน "ซูซูกิ" ได้เตรียมแคมเปญพิเศษโดยลูกค้าที่ซื้อรถภายในงานจะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นที่ 1.95% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี พร้อมของสมนาคุณและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ มากมาย "โปรตอน" รุ่น "แซฟวี่" ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี และรุ่นอื่น ๆ ก็จะมีแคมเปญดาวน์น้อยผ่อนนาน และวางแผนจะจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เหมือนกับที่เคยจัดให้กลุ่มราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น

ทางด้านค่ายรถอเมริกัน "เชฟโรเลต" ใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากคนอื่น เรียกว่า "แลกรถ" ปกติเวลาซื้อรถแล้วต้องการเทิร์นรถเก่า ผู้ขายก็จะมีผู้ค้ารถเก่า (เต็นท์รถ) มารับช่วงอีกทอด ซึ่งส่วนใหญ่จะกดราคาต่ำมาก แต่สำหรับมอเตอร์โชว์ เชฟโรเลตจัดให้ โดยจะขับรถรุ่นไหนก็ได้มาแลกรถเชฟโรเลตได้ทุกรุ่น ให้ราคาดีกว่า โดย "แคปติวา" ได้สูงกว่า 30,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นในราคาสบาย ๆ เพียง 13,680 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรี 1 ปี "ออพตร้า" และ "ออพตร้า ซีเอ็นจี" เปลี่ยนเป็นออพตร้าใหม่ ได้ราคาสูงจากราคากลางมากถึง 20,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นสบาย ๆ เพียง 8,262 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี "อาวีโอ" เปลี่ยนเป็นอาวีโอใหม่ ได้ราคาสูงจากราคากลางมากถึง 15,000 บาท ผ่อนสบาย ๆ เพียง 5,746 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรี 1 ปี พิเศษสำหรับ "อาวีโอ 1600 ซีซี" รับเน็ตบุ๊ก HP ฟรี "โคโลราโด" ให้ราคาสูงกว่าราคากลาง 15,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,762 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี

ส่วนรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม BMW ใช้แคมเปญ "trade-in" กับรถ BMW 520d Sport, BMW X3 xDrive25i, BMW 525i Sport มูลค่า 350,000 บาท และ BMW 525i มูลค่า 400,000 บาท เงื่อนไขค่า trade-in ดังกล่าว เป็นมูลค่าสนับสนุนเพิ่มเติมจากราคาประเมินของรถเก่าอ้างอิงจาก Red Book โดยรถที่จะนำมา trade-in จะต้องมีมูลค่าประเมินมากกว่า 400,000 บาท โดยอ้างอิงจาก Red Book และแคมเปญแจกของขวัญพิเศษ iPod/iPhone เฉพาะในงาน

"วอลโว่" ก็ไม่น้อยหน้า เพราะนอกจากมีรถใหม่ถึง 2 รุ่นแล้ว ยังเพิ่มสีสันให้กับตลาดด้วยการมอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้า เป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวพร้อมที่พัก 4 วัน 3 คืน ที่คีรีมายา เขาใหญ่ หรือแพ็กเกจล้างสี ดูดฝุ่นฟรี 52 ครั้ง 52 สัปดาห์ และขัด เคลือบสีอีก 12 ครั้ง 12 เดือนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า "มอเตอร์โชว์" เที่ยวนี้มีใหม่แกะกล่อง อาทิ ฟอร์ด เฟียสต้า, มาสด้า 2 รุ่น 4 ประตู, นิสสัน มาร์ช, โตโยต้า วีออส ไมเนอร์เชนจ์, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 1, เปอโยต์ บิปเปอร์ เมโทร, วอลโว่ เอส 80 และซี 30, เลกซัส แอลเอฟเอ, เมอร์เซเดส

ขอบคุณ ประชาชาติธุรกิจ

Thursday, March 25, 2010

Pretty Motor Show 2010 Bitec -1















ผลการประกวด Miss Motor Show 2010

ผลการประกวด มิส มอเตอร์โชว์ 2010
Miss Motor Show 2010 น.ส. อมีนา กูล น้องไอซ์
รองอันดับ 1 น.ส. วรรณนิการ์ พุดชั่ง น้องเจนนี่
รองอันดับ 2 น.ส. จุฬารัตน์ จันเจือ น้องซินมา
รองอันดับ 3 น.ส. แพ็ตตี้ รอธาส น้องแพ็ต
รองอันดับ 4 น.ส. อาทิติยา ฟอนซูร์มห์เล็น น้องอูลี่
Miss Congeniality 2010 น.ส. กรรณาภรณ์ เอีี่ยมวิบูลย์ น้องกิ๊ฟท์












Wednesday, March 24, 2010

Ford เฟียสต้า พร้อมเปิดตัวในงาน motor show 2010

ฟอร์ดเตรียมพร้อม เปิดตัว ฟอร์ด เฟียสต้า ในงาน MotorShow 2010 ซึ่งจะนำมาโชว์ทั้งรุ่น 4 ประตู และ 5 ประตู ชูจุดเด่นที่ เกียร์ powershift และ เทคโนโลยีทันสมัย
มี 2 รุ่น คือ รุ่น 4 ประตู sedan และ 5 ประตู hatchback และมีเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ 1.4 ลิตร และ 1.6 ลิตร ให้เลือกใช้

ฟอร์ด เฟียสต้า

ฟอร์ด เคยนำ เฟียสต้า รุ่น 5 ประตู hatchback มาเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ในงาน MotorShow 2010 นี้ฟอร์ดจะนำเฟียสต้า รุ่น 4 ประตูมาโชว์ด้วย นับเป็นการเผยโฉมตัวถังแบบซีดาน ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ทั้งรุ่น 5 ประตู และ 4 ประตู จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กคันแรกของฟอร์ดในทวีปเอเชีย ที่ได้รับการติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ powershift 6 สปีด แบบคลัชต์คู่ ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง ฟอร์ดอ้างว่า ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 9% เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติทั่วไป

ในงาน MotorShow 2010 จะมีการการจัดแสดงชิ้นส่วนภายในของเฟียสต้า ให้ผู้ที่สนใจเห็นการทำงานของแผงหน้าปัดและคอนโซลกลาง ที่ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัยและง่ายต่อการใช้งาน

โครงสร้างตัวถังรถ ใช้เหล็ก Ultra-high Strength Steel หรือเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษและมีน้ำหนักเบา High Strength Steel หรือเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง และอีกหลายประเภทสำหรับโครงสร้างตัวถังเพื่อช่วยปกป้อง
อันตรายจากการชนและเพิ่ม ความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น ซึ่งในงาน MotorShow 2010 จะมีการขัดแสดงให้เห็นโครงสร้างด้วย โดยเหล็กประเภทต่างๆ จะได้รับการเน้นด้วยสีที่แตกต่างกัน

ฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นที่ผลิตในไทย พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาส 3 ของปีนี้

ในเรื่องของราคาและโปรโมชั่นสำหรับการจอง ฟอร์ด เฟียสต้า นั้นยังไม่มีการเปิดเผย

ที่มา thaiautoshop.com

Tuesday, March 23, 2010

ิเบนซ์เปิดตัว SLS AMG ใหม่ล่าสุด


เบนซ์ทุ่มเปิดตัวรถใหม่ในมอเตอร์โชว์ ชูไฮไลต์อวดโฉมสปอร์ต SLS AMG สปอร์ตคูเป้ประตู
ปีกนกยั่วน้ำลายเศรษฐี เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม CGI BlueEFFICIENCY ในรถใหม่ 6 รุ่น
ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า บริษัทได้นำขบวนยนตรกรรมระดับหรูทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถเพื่อการ พาณิชย์รวมทั้งสิ้น 16 คัน จัดแสดงในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 ภายใต้แนวคิดนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะในการขับขี่ และความปลอดภัย อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้อย่างครบถ้วนโดยไฮไลต์ของงานนี้คือ การเปิดตัวของ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ SLS AMG – Gullwing Super Sports Car เป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวยนตรกรรมใหม่พร้อมกันถึง 6 รุ่นในทุกเซ็กเมนต์
“ไฮไลต์พิเศษของบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ในปีนี้คือการเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมระดับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ Mercedes-Benz SLS AMG ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนารถยนต์ขั้นสูงสุดของเมอร์เซเดส -เบนซ์ อันประกอบไปด้วย ดีไซน์ที่ล้ำสมัยแบบหมดจด โดยทำให้โครงสร้างรถมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งพร้อมมีแฮนด์ลิ่งแบบไดนามิกที่ เหนือชั้น จึงนับได้ว่า SLS AMG เป็นที่สุดของรถระดับซูเปอร์สปอร์ตคาร์แห่งยุคนี้”

Mercedes-Benz SLS AMG มีต้นแบบการดีไซน์มาจากรุ่น 300 SL Gullwingในยุค1950 โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ประตูเปิดแบบปีกนกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ SLS AMG นั้นมีเสน่ห์เหนือคู่แข่งอื่นๆ ในด้านของแนวคิดของโครงสร้างรถนั้น SLS AMG เป็นรถที่ผลิตร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ AMG โดยตัวถังและแชสซีส์ทำจากอะลูมิเนียมทำให้สามารถลดน้ำหนักรถได้อย่างมาก โดย SLS AMG มีน้ำหนักเพียง 1,620 กก. เท่านั้น
ส่วนขุมพลังของ SLS AMG ก็คือเครื่องยนต์ วี 8 ขนาด 6.3 ลิตรซึ่งสามารถผลิตกำลังได้ 571แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาทีและแรงบิด 650 นิวตัน-เมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที ด้วยแรงม้าและแรงบิดที่มหาศาลของเครื่องยนต์วี 8 ของ SLS AMG นั้น จึงสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที่ ความเร็วสูงสุดที่ 317 กม./ชม.
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้นำสุดยอดยนตรกรรมแห่งความหรูหราอย่าง the new generation S-Class มาแสดงในงานถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือ S 300 L, S 350 CDI L BlueEFFICIENCY และ S 500 L ซึ่งเป็นรถธง ด้วยดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นภูมิฐาน พร้อมเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่เป็นเลิศ ทำให้ S-Class เป็นต้นแบบแห่งสุดยอดยนตรกรรมหรูระดับพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จสูงสุด นอกจากนี้ที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือเทคโนโลยี SPLITVIEW ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่ติดตั้งในรถหรูระดับ S-Class โดยผู้ขับขี่สามารถอ่านแผนที่ Navigator จากหน้าจอภาพพร้อมกันกับผู้โดยสารตอนหน้าที่สามารถ

The new E-Class เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำมาแสดงในงาน ประกอบด้วย E 300 AVANTGARDE, E 200 CGI BlueEFFICIENCY ELEGANCE, E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE และ E 250 CGI BlueEFFICIENCY Coupé ELEGANCE โดย the new E-Class ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในเซ็กเมนต์เดียวกัน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยขับ driver assistance systems ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ที่เดินทางบนท้องถนน
“ในปี 2552 ที่ผ่านมา E-Class ถือเป็นหัวใจหลักของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 63% ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า E-Class เป็นรถยนต์หรูที่สามารถครองใจลูกค้าเป็นอันดับต้น ๆ และด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศในทุกๆด้านของ the new E-Class เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน”

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ


รับชมภาพยนตร์จาก DVD ได้ในจอเดียวกัน

Sunday, March 21, 2010

The 31st Bangkok International Motor Show at Bitech Bangna


The 31st Bangkok International Motor Show Theme
Ecology Driving Save the Earth
รักรถ รักษ์โลก

เนื่องจากปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มนุษย์ต่างหันมาใส่ใจในการรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และประหยัดการใช้พลังงานเพื่อให้โลกของเราน่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและพลังงานที่อุดมสมบูรณ์ รถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของหลายๆคน แต่ในขณะเดียวกัน รถยนต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดมลภาวะและการสิ้นเปลืองพลังงาน รถยนต์ขนาดเล็กหรืออีโคคาร์ และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยประหยัดพลังงานและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ต่างพัฒนาเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะที่ดีและลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้น มนุษย์เราควรเรียนรู้ที่จะรักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนและเป็นแรงขับเคลื่อนของรถยนต์สืบต่อไป

Automobile is one most important parts of our living nowadays. The increasing of environment pollutions makes people around the world concerned more on environmental preservation and energy saving for better living. It is well known that CO2 Emissions are the main reason for Global Warming. Modern Diesel Technology, Hybrid Technologies and Eco Car Projects are alternatives to save energy and reduce environmental pollution. Nowadays many car manufactures are developing new engines technologies that provide higher performance at lower fuel consumption and lower CO2 Emissions. Hence, people should be aware of environment preservation and alternative energy for the brighter future of automobile industry.

กำหนดการพิธีเปิดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31
วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2553
ณ. ห้อง แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค


9.00 – 9.30 น
. ลงทะเบียน สื่อมวลชน บริเวณห้องประชาสัมพันธ์ 104
แขกผู้มีเกียรติ บริเวณด้านหน้าห้องอาหาร ฟาเรนท์ไฮน์
9.35 น. ประธานในพิธี ประธานบริษัทฯ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าสู่บริเวณพิธีเปิดงาน The 31st Bangkok International Motor Show
9.45 น. พิธีเปิดงาน The 31st Bangkok International Motor Show
พิธีกร เรียนเชิญ ท่านประธานและผู้บริหารบริษัทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ขึ้นสู่เวทีเพื่อเริ่มพิธีเปิด ตามรายชื่อที่แนบ
9.59 น. พิธีเปิด งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 อย่างเป็นทางการ
10.10 น. สิ้นสุดพิธีเปิด
10.30 น. เริ่มการแสดงของบริษัท รถยนต์ ตามลำดับ



Friday, March 19, 2010

เปิดตัวพร้อมราคา Mazda 2 Sedan 4 ประตูใหม่

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อมั่นระบบเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว ประกาศเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทันที ปล่อยหมัดเด็ดระลอกสองออกมาท้ารบกับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับมาสด้า2 ใหม่ รุ่นแฮ็ชแบ็ค 5 ประตู ที่ออกอาละวาดตลาดรถเมืองไทยให้คึกคักตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับโกยยอดขายไปแบบถล่มทลายมียอดขายสูงถึง 5,500 คัน พร้อมเปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานใหม่ มาสด้า2 4 ประตู สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่างเป็นทางการ

พร้อมชู อีกสไตล์ของ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ พรีเซ็นเตอร์ ออกมาได้อย่างโดดเด่น ตอกย้ำความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตที่มีสไตล์เหมาะเฉพาะตัว ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ “เจ็นนาว” หรือ Generation NOW ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตมาในช่วงของโลกดิจิตอล จึงมีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวเช่นกัน

การเปิดตัวมาสด้า2 ใหม่ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ “New Mazda2 Life Continues เพราะชีวิตท้าทาย…ไม่ได้มีแค่สไตล์เดียว” ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้าแบบ “ซูม-ซูม” โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเร้าใจ เพิ่มความหรูอีกระดับด้วยห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยจากยุโรประดับสูงสุด 5 ดาว มาสด้า2 ซีดานใหม่ เป็นรถยนต์ที่มีความสปอร์ตหรู เปี่ยมด้วยคุณภาพและพลังที่ขับสนุก ให้ลูกค้าคนไทยมีเฮเปิดราคาเริ่มต้นเพียง 535,000 บาท

จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า จาก ความสำเร็จอย่างถ้วมท้นในการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ รุ่นแฮ็ทแบค 5 ประตู เมื่อเดือนกลางพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มาสด้ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความประหลาดใจให้กับคู่แข่งของมาสด้าที่กำลังจับตามองเราอยู่ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะยังคงทำงานกับผู้จำหน่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้โครงการและการดำเนินการต่างๆ ของเราสมบูรณ์แบบ เพื่อที่จะรับประกันถึงความสำเร็จของเราในปีนี้ นอกเหนือจากความสำเร็จด้านยอดขายแล้ว อีกสิ่งที่มาสด้าเน้นความสำคัญมาโดยตลอดนั่นคือการขยายเครือข่ายโชว์รูมและ ศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อให้ครบ 130 แห่งในปีนี้ ภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ MCI เพื่อรองรับการบริการที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทั้งด้านการขาย การเงิน อะไหล่ และบริการ รวมทั้งการยกระดับแบรนด์มาสด้าให้ขึ้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์เมืองไทย

จอห์น เรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ ตลาดรถยนต์มาสด้าในปี 2553 นี้ มาสด้าตั้งเป้ายอดขายปีนี้สูงถึง 35,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 164 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ และรุ่นแฮ็ชแบค 5 ประตู จะยังคงเป็นโปรดักซ์ลีดเดอร์สำหรับการทำตลาดในปีนี้ โดยมาสด้า2 ทั้ง 2 รุ่นตั้งเป้าหมายยอดขายไว้อยู่ที่ประมาณ 24,000 คัน และที่สำคัญรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 จะยังคงรักษาความร้อนแรงต่อไป ประมาณ 5,00 คัน ส่วนรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 คัน และรถพรีเมี่ยมคาร์คือ New Mazda CX-9 และ New Mazda MX-5 อีกประมาณ 78 คัน

สำรับรถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ 4 ประตู ที่มาสด้าเสริมเขี้ยวเล็บในการลุยกับคู่แข่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก มาพร้อมภาพลักษณ์ใหม่ที่ให้ความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และเป็นรถสไตล์ครอบครัวที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะกดทุกสายตาทั้งขณะขับขี่และจอดนิ่งอยู่กับที่ มาพร้อมช่วงล่างอันเลื่องชื่อของมาสด้า ระบบความปลอดภัยสูงสุดจากยูโรเอ็นแคป (Euro NCAP) ในระดับ 5 ดาว พร้อมปกป้องทุกชีวิต เครื่องยนต์ตระกูล MZR 1500 ซีซี ที่ให้พลังแรงเต็มสมรรถนะทุกรอบความเร็ว พร้อมแรงม้าสูงสุดถึง 103 แรงม้า ซึ่งผ่านบทพิสูจน์แล้วจากรุ่นแฮ็ชแบ็ค 5 ประตู

สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำ หรับมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ 4 ประตู จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสเป็นครั้งแรกทุกโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ ในวันเปิดสู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการในวันนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะนำพามาส ด้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด ซึ่งมาสด้า2 ซีดานใหม่จะสามารถครองใจผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นรถที่มีรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดดเด่นทุกมุมมอง มาพร้อมสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ให้พลังแรงเต็มประสิทธิภาพ พร้อมระบบช่วงล่างอันเลื่องชื่อที่ให้การเกาะถนนเป็นเยี่ยม ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ และที่สำคัญลูกค้าที่จองซื้อไม่ต้องรอรถนาน เนื่องจากมาสด้าเริ่มสายการผลิตและมีรถพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าในทันทีในทุก รุ่น

นางสาวสุรีทิพย์ กล่าวว่า ในการพัฒนาด้านการออกแบบรถมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ เรา ยังคงใช้แนวการออกแบบเช่นเดียวกับมาสด้า2 ใหม่ รุ่น 5 ประตู ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย นอกเหนือจากรูปลักษณ์แบบสปอร์ตที่โดดเด่นของมาสด้า2 ใหม่ รุ่นแฮ็ชแบค 5 ประตู เราได้ผสมผสานความหรูหรา สง่างามและความแข็งแกร่งในการออกแบบด้านท้ายรถของมาสด้า2 ซีดานใหม่ พร้อมให้สมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นตามแบบฉบับ ซูม-ซูม และความสะดวกสบาย รวมถึงความนุ่มนวลในการขับขี่ เฉกเช่นมาสด้า2 ใหม่ รุ่น 5 ประตู


มาส ด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ ได้รับการออกแบบเพื่อเป็นรถยนต์ที่ให้ความเพลิดเพลินในทุกๆ วันของชีวิต ไม่เพียงในด้านความสนุกสนานในการขับขี่ แต่รวมไปถึงความภูมิใจที่ได้ครอบครองรถยนต์ยอดเยี่ยมคันนี้ภายใต้ขนาดที่ กะทัดรัด มาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ ได้ผสานแนวคิด ซูม-ซูม เข้าไปในการผลิตอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้รถคันนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ใช่เพียงรถยนต์ธรรมดาๆ คันหนึ่ง และ ณ วันนี้ มาสด้า2 สปอร์ตซีดาน ใหม่ และรุ่นแฮ๊ชแบค 5 ประตูจะเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสไตล์ที่โดดเด่น

ภายในมาสด้า2 ซีดานใหม่ ออกแบบให้เบาะนั่งด้านหลังกว้างขาวงสะดวกสบายเหนือกว่ารถซีดานทั่วๆ ไป และสามารถเลือกปรับพับเบาะได้ 60:40 เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บสิ่งของขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับในรุ่น 5 ประตู โดยภายในเลือกใช้โทนสีเบจที่ให้ความรู้สึกหรูหราโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด นอกจากนี้มาสด้า2 ซีดานใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry and Start System) ที่ให้ความสะดวกสบายในการเปิด-ปิด และสตาร์ทรถโดยไม่ใช้กุญแจ ซึ่งเป็นการใส่ใจในรายละเอียดที่มาสด้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด และเพื่อเพิ่มความสุนทรีตลอดการเดินทางด้วยวิทยุ CD-MP3 6 แผ่น พร้อมช่องเชื่อมอุปกรณ์เสริม AUX

สำหรับมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีการลดน้ำหนักส่วนเกิน หรือ Lightweight Technology การผลิตรถยนต์ให้มีน้ำหนักเบาที่สุด นับเป็นจุดมุ่งหมายหลักประการหนึ่งเพราะน้ำหนักของรถมีผลต่อสมรรถนะการขับ ขี่ การบังคับควบคุม และการหยุดรถ ยิ่งน้ำหนักตัวรถน้อยลง สมรรถนะของรถจะยิ่งเพิ่มขึ้นในทุกๆ ด้าน นอกจากนั้น น้ำหนักยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของรถ ดังนั้น รถมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ จึงได้นำเทคโนโลยีล่าสุดในการลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ซึ่งได้มาจากการทุ่มเทพัฒนาที่ก้าวล้ำหน้าของมาสด้า

เครื่องยนต์ MZR ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOCH) 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1,500 ซีซี 103 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ S-VT (Sequential Valve Timing) และระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV (Tumble Swirl Control Value) ตอบสนองการขับขี่ทุกจังหวะความเร็วและแม่นยำ พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPAS (Electric Power Assistance Steering) แม่นยำคุมได้ได้ตามสั่ง รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.9 เมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงออกเทน 91 ขึ้นไป หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 ช่วงล่างถูกออกแบบให้ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวล ซึ่งคุณภาพช่วงล่างของมาสด้าเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วโลก ระบบความปลอดภัยรอบคันด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ TRIPLE H ที่ให้ความแข็งแกร่งทนทานสูง โครงรถผลิตจากเหล็กกล้าชนิดพิเศษ “อัลตร้า ไฮ เทนไซล์ สตีล” (Ultra High Tensile Steel) ที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง เหนียวทนทานกว่าเหล็กทั่วไป คุณสมบัติรับและส่งถ่ายแรงกระแทกให้กระจายไปทั่วคัน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารภายใน เสริมด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า พร้อมระบบเบรก ABS ทั้ง 4 ล้อ และ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก ทำให้ระยะเบรกสั้นลง

นางสาวสุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำ หรับมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้คือ จะแตกต่างจากมาสด้า2 ใหม่ แฮ็ชแบค 5 ประตู คือจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หรือโตขึ้นกว่าเดิม แต่ยังเป็นคนหนุ่ม-สาวที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และไม่ชอบตามใคร เป็นกลุ่มผู้เริ่มต้นทำงาน และผู้ที่มีชีวิตหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นผู้บริหารไฟแรง หรือผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ มีกิจการส่วนตัว ส่วนการสื่อสารภาพลักษณ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน ซึ่งเรายังคงใช้ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ ซึ่งเป็นศิลปิน นักแสดงหนุ่มที่กำลังฮ็อตฮิตที่สุดในยุคนี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเป้จะมาในลุคอีกสไตล์ที่จะสะท้อนตัวตนของมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ได้อย่างชัดเจน และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยถ่ายทอดผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที นอกจากนี้ มาสด้ายังโหมโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ บิลบอร์ด และสื่อออนไลน์ โดยเน้นสร้างกระแสจากกรุงเทพฯ เป็นหลัก และตามหัวเมืองหลักๆ ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะมาสด้าได้ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายในพื้นที่เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และเตรียมลงพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเปิดตัวรถอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ

กลยุทธ์ ด้านราคา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางมาสด้าพิจารณาในการนำมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ เพื่อลงสู้ศึกในตลาดที่มีความแข็งแกร่งและท้าทาย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 535,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่รุ่นท๊อปซึ่งภายนอกและช่วงล่างมีชุดสปอร์ตเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาต่ำกว่า 7 แสนบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ มีมาแบบครบครับ นับว่าเป็นรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก มีด้วยกัน 4 รุ่นคือ

รุ่น Groove M/T เกียร์ธรรมดา ราคาจำหน่าย 535,000 บาท
รุ่น Groove A/T เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 564,000 บาท
รุ่น Spirit S A/T เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 615,000 บาท
รุ่น Maxx A/T เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 675,000 บาท

ที่ สำคัญสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานมาสด้า2 ใหม่ รวมทั้งรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น ทุกสี ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานมาสด้าที่มีอยู่ถึง 107 โชว์รูมทั่วประเทศ โดยทางมาสด้า ประเทศไทย พร้อมจัดส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเนื่องจากได้มีการเตรียม ความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจองซื้อ และรับรถได้ทันที

Thursday, March 18, 2010

SAIC-GM กับโลกยานยนต์ในอนาคต

เอสเอไอซี-จีเอ็ม พาวิลเลียน มุ่งหน้าสู่ปี 2573 แนวคิดแห่งโลกอนาคต ที่งานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ๊กซ์โป 2553

เอสเอไอซี-จีเอ็ม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งอนาคต เผยแนวคิดโลกยานยนต์ “มุ่งหน้าสู่ปี 2573” ครั้งแรก ที่เซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ๊กซ์ป 2553 ซึ่งเอสเอไอซี-จี เอ็ม เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของโลกที่ได้รับเลือกให้จัดแสดงบนพื้นที่ของตน เองกว่า 6,000 ตารางเมตร พร้อมให้ยลโฉมแล้วในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

สำหรับงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2553 ในปีนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่งของการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยียานยนต์ของความ ร่วมมือกันระหว่างเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น (เอสเอไอซี) และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ที่ได้ผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการยนตกรรม โดยการนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการคมนาคมที่วางรากฐานไว้สำหรับอนาคตในปี พ.ศ. 2573 โดยภายในงานจะแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเมืองแห่งอนาคต พร้อมด้วยระบบการคมนาคมส่วนบุคคลรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน ซึ่งปราศจากการใช้น้ำมันปิโตรเลียม ปราศจากการปล่อยไอเสีย ปราศจากการเกิดอุบัติเหตุ ปราศจากปัญหาด้านการจราจร แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและสีสันแห่งความแปลกใหม่

ทั้งนี้ เอสเอไอซี และจีเอ็ม สองบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์โลกได้ทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่อ เปลี่ยนวิสัยทัศน์นี้ให้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ อาทิเช่น พลังงานไฟฟ้า ระบบการติดต่อสื่อสาร และระบบการขับขี่อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นรถยนต์แห่งโลกอนาคตจะอาศัยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลักในการขับ เคลื่อน ซึ่งจะผลิตขึ้นมาจากแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมดสิ้นและปราศจากการปล่อยไอ เสีย อาทิเช่น พลังงานไฮโดรเจน พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์

นอกจากนี้รถยนต์แต่ละคันจะสามารถติดต่อระหว่างกันได้หากวิ่งอยู่บนถนนสาย เดียวกัน โดยลักษณะการขับขี่นี้จะส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงความแปลกใหม่ ความสนุกสนาน และความเป็นอิสระตลอดการเดินทาง

ทั้งนี้ เอสเอไอซี-จีเอ็ม ต่างมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่า เดิมของชีวิตคนในเมือง ด้วยเทคโนโลยีการคมนาคมส่วนบุคคล ที่พร้อมจะเผยโฉมผลงานชิ้นเอก ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ที่ งานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2553 โดยจีเอ็มเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของโลกที่ได้รับเลือกให้จัดแสดงบนพื้นที่ของตนเองกว่า 6,000 ตารางเมตร ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างแท้จริงของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส

เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 204,000 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าเยี่ยมชมที่ www.gm.com

Proton Savvy SE แค่ 200 คันเท่านั้น


หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดตัวรถยนต์ Proton ในประเทศไทย บริษัท พระนครออโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Proton ในประเทศไทย เปิดตัว Proton Savvy Special Edition หรือ Savvy SE สปอร์ตคอมแพครุ่นพิเศษ

โครงสร้างพื้นฐานมาจากรุ่น High Line (H/L) ระบบเกียร์ AT สะดุดตาด้วยสีขาวใหม่ solid white และชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน หลังคาและเสา B-pillar สีดำ สปอยเลอร์หลัง และกระจกมองข้าสีดำ ภายในโฉบเฉียวด้วยลายกราฟฟิคดอกชบาบนเบาะหนังสีดำคาดแดง พวงมาลัยสปอร์ตสไตล์เดียวกัน พื้นพรมออกแบบพิเศษ เสริมความงามให้กับห้องโดยสารมากยิ่งขึ้น Proton Savvy SE เปิดตัวด้วยราคา 499,000 บาท จำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น

Proton Savvy เป็นสไตล์คอมแพค 5 ประตู กระทัดรัด ให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมือง บรรจุ เครื่องยนต์ขนาด 1.1 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้าที่ 5500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 105 นิวตันเมตรที่ 4250 รอบ/นาที มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน พร้อมระบบควบคุมบังคับ และระบบกันสะเทือนที่พัฒนาเทคโนโลยีโดยทีมวิศวกรจากรถ Lotus ประเทศอังกฤษ

ด้าน ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ 5 สปีดแบบ AMT (Automated Manual Transmission) สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาได้อย่าง ง่ายดาย อีกทั้งประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจและวิกฤติราคาน้ำมันในปัจจุบัน ทั้งนี้บริษัทยังคงราคาเริ่มต้นของ Proton Savvy รุ่นปกติไว้ที่ 399,000 บาทเท่านั้น (ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์)



Tuesday, March 16, 2010

Honda Odyssey Minivan

ก่อน ที่จะถึงงานมอเตอร์โชว์ใหญ่ชองปีอย่าง Geneva Motor Show เราขอนำท่านไปชมงานมอเตอร์โชว์ที่ไม่เล็กในฝั่งอเมริกา Chicago Auto Show ที่ Honda เลือกเป็นงานเผยโฉมรถแนวคิด Honda Odyssey มินิแวนเจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีรูปร่างหน้าที่เหมือนพร้อมจะออกสู่ตลาดมากกว่า จะเป็นรถแนวคิด เพราะเห็นแว้บแรกตรงกระจังหน้าก็ต้องมาลุ้นว่าจะโดนสาวกอเมริกันรุมสกรัม เหมือนรุ่น Crosstour ที่โดนยำเละไปแล้วก่อนหน้านี้ฐานรูปร่างหน้าตาไม่ถูกใจหรือไม่ แต่ก็ถือว่ามาไกลเกินกว่าจะกลับไปเปลี่ยนโฉม เพราะตามกำหนดการแล้ว Odyssey ใหม่รุ่นนี้จะเปิดตัวในฐานะรถผลิตรุ่นปี 2011 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

เมื่อ เปรียบเทียบกับ Odyssey โฉมปัจจุบัน รถแนวคิดรุ่นนี้มีเส้นหลังคาต่ำลงไป 1 นิ้ว แต่กว้างขึ้น 1.4 นิ้ว เพื่อให้เป็นไปตามหลักพลศาสตร์มากขึ้น ส่วนฐานล้อยังคงตัวเลขเดิมคือ 118.1 นิ้ว ซึ่ง Honda อ้างว่า Odyssey เจนเนอเรชั่นใหม่นี้จะมีรูปทรงโฉบเฉี่ยวลู่ลมมากขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบใหม่ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

แต่ ตอนนี้ Honda คงวุ่นอยู่กับการเรียกรถที่มีปัญหาคืนมากกว่าเพราะล่าสุดวันนี้ก็เรียกคืน อีกหนึ่งชุดใหญ่แล้ว เรียกว่าไม่น้อยหน้า Toyota เลย!



ข้อมูลจาก auto spinn

Monday, March 15, 2010

Nissan NV 2011 สำหรับรถบรรทุกจ้า

Nissan ได้เปิดตัวรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ในตระกูล NV รุ่นปี 2011 สำหรับตลาดอเมริกา โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นคือ NV1500, NV2500 HD และ NV3500 HD โดยสองรุ่นหลังจะมีหลังคาแบบยกสูงให้เลือกเพื่อพื้นที่จุสัมภาระและพื้นที่ ทำงานหลังรถที่มากขึ้น โดยมีความสูงพอที่จะทำให้คนสามารถยืนด้านหลังได้อย่างสบายๆด้วยระดับความสูง ของหลังคาที่ 194 เซนติเมตร ส่วนรุ่นเล็กสุดอย่าง NV1500 จะใช้หลังคาความสูงมาตรฐาน
พื้นที่จุสัมภาระด้านหลังของ NV มีความยาว 3.06 เมตร กว้าง 1.79 เมตร โดยหลังคาขนาดมาตรฐานมีความสูงอยู่ที่ 1.4 เมตร ในขณะที่หลังคาแบบสูงพิเศษมีความสูงตามที่กล่าวไปข้างต้นคือ 1.94 เมตร
Nissan NV ทุกรุ่นจะใช้ระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 4.8 ลิตร หรือเครื่องยนต์ V8 5.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ โดย Nissan NV ถือว่าเป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ของ Nissan รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยจะถูกสร้างขึ้นในเมืองแคนตัน รัฐมิสซิสซิปปี้ และจะเริ่มมีจำหน่ายทั่วอเมริกาภานในปีนี้ครับ