Thursday, April 1, 2010

โตโยต้า เปิดบูธเล็กซัส ในงานมอเตอร์โชว์ 2010

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธ เลกซัส ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 ภายใต้แนวคิด "Integrated Perfection" ที่ผสานความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ศิลปะการออกแบบให้กลมกลืนกับความประณีตสูงสุดระดับงานฝีมือ หรือ Craftsmanship อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมสัมผัสสุดยอดซุปเปอร์คาร์ระดับโลก Lexus LFA และรถต้นแบบ LF-Ch ที่ผสานความเป็นเลิศด้านสมรรถนะในการขับขี่ กับการลดมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัวในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน ศกนี้ ที่ ศูนย์แสดงสินค้า และนิทรรศการนานาชาต ไบเทค บางนา
"เลกซัสกรุ๊ป" เข้าร่วมแสดงยานยนต์ระดับหรูในนาม เลกซัส ภายใต้แนวคิด "Integrated Perfection" ที่ต้องการถ่ายทอดถึงการผสานความล้ำหน้าแห่งเทคโนโลยีไฮบริดที่ให้สมรรถนะ การขับขี่ที่ดีเยี่ยมควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม กับปรัชญาแห่งการออกแบบ L-finesse (แอล ฟิ เนส) ซึ่งเป็นปรัชญาเฉพาะของเลกซัส ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด คำนึงถึง ความหรู เรียบง่าย มีระดับเหนือกาลเวลา และความประณีตของช่างฝีมือชั้นครู (TAKUMI) ที่ใช้ประสาทสัมผัสในการควบคุมคุณภาพของการผลิตแต่ละส่วนอย่างพิถีพิถัน เช่นสัมผัสแห่งการมองเห็น การรับฟัง การสัมผัส ทั้งหมดนี้คือสุดยอดแห่งศาสตร์และศิลป์อันเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์ ยนตรกรรมที่โดดเด่นเหนือระดับ "เลกซัส"
เพียง 500 คันทั่วโลก

เลกซัส LFA สุดยอดรถซุปเปอร์คาร์ ที่มีการตอบสนองที่ดีเยี่ยม กับประสิทธิภาพการเกาะถนนที่แสดงถึงขีดสุดของสมรรถนะ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนไปกับทุกอารมณ์ความรู้สึก ปลุกเร้าสัมผัสแห่งการขับขี่ที่เหนือกว่า สุดยอดขุมกำลังขนาด 4.8 ลิตร วี10 และรูปลักษณ์หรูหรา ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ สามารถตอบสนองได้อย่างลื่นไหลในทุกย่านความเร็ว

รูปลักษณ์สะท้อนสมรรถนะทรงพลัง
แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา

วิวัฒนาการใหม่ของเครื่องยนต์สมรรถนะสูง 4.8 ลิตร วี10 ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบา (อะลูมิเนียมอัลลอย แมกนีเซียมอัลลอย และไทเทเนียมอัลลอย" จึงทำให้เครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัด (เล็กกว่าเครื่องยนต์ วี8 ทั่วๆ ไป) ซึ่งมีส่วนช่วยต่อการกระจายน้ำหนักให้เหมาะสม และให้อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีเยี่ยม

Carbon Fiber Reinforced Plastic (CFRP) เพิ่มความแข็งแกร่งให้โครงสร้างตัวถัง และยังมีน้ำหนักเบา โดยโครงสร้างตัวถังชนิดนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าตัวถังแบบอลูมิเนียมถึง 100 กิโลกรัม และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ CFPR เข้ากับโลหะ นับเป็นความก้าวล้ำที่พัฒนาขึ้นโดยเลกซัส

ความสมดุล

ด้วยการจัดวางตำแหน่งของชิ้นส่วนหลัก เช่น การวางตำแหน่งเครื่องยนต์และชุดส่งกำลังให้อยู่ระหว่างฐานล้อหน้า-หลัง การใช้ระบบหล่อลื่นแบบ Dry Sump Lubrication(1) การติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปั๊มน้ำมันเครื่อง ปั๊มน้ำหล่อเย็น ไว้ด้านหลังของเครื่องยนต์ ทั้งหมดเพื่อให้เกิดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ต่ำ และยิ่งไปกว่านั้น การจัดวางชุดส่งกำลังและถังน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ที่ด้านหน้าของเพลาหลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการกระจายน้ำหนักลงสู่ศูนย์กลางของตัวรถ จะทำให้การถ่ายเทน้ำหนักลดลงในขณะเข้าโค้ง ส่งผลให้รถมีประสิทธิภาพการทรงตัวที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบา อาทิเช่น หม้อน้ำ และพัดลมไฟฟ้าระบายร้อน ได้ถูกนำไปติดตั้งหลังเพลาขับหลัง สำหรับการจัดวางเครื่องยนต์ด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง ประกอบกับตัวถังที่สั้น กว้าง และต่ำ จะทำให้ LFA สามารถกระจายน้ำหนักสู่ล้อหน้าและหลัง ได้อย่างสมดุล ด้วยอัตราส่วน 48 : 52

การจัดวางตำแหน่งคนขับ

การจัดวางตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับที่ใกล้กับจุดศูนย์ถ่วง โดยมีตำแหน่งใกล้กับจุดกึ่งกลางของตัวรถมากที่สุด จากการจัดวางเพลาขับหลัง ชุดส่งแรงบิด และท่อไอเสีย อย่างเหมาะสมซึ่งช่วยลดขนาดความกว้างของอุโมงค์กลางลงได้ โดยจะทำให้ตำแหน่งผู้ขับสามารถสัมผัสความรู้สึกจากการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับขี่ แบบสปอร์ต หรือ การขับขี่ที่มีแรงดึงและแรงเหวี่ยงสูงๆ จากการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง

สมรรถนะเร้าใจกับประสบการณ์การขับขี่เหนือบรรยาย
เครื่องยนต์รอบจัด

วาล์วไทเทเนี่ยม กระเดื่องกดวาล์วน้ำหนักเบาชุบแข็งพิเศษ และห้องข้อเหวี่ยงที่ไม่สูงมาก ทั้งหมดนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานที่รอบเครื่องยนต์สูงๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงอัตราเร่งที่สูงถึง 9000 รอบต่อนาที สำหรับเครื่องยนต์ วี10 ของ LFA นั้นสามารถสร้างแรงบิดได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของแรงบิดสูงสุดตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ที่ 3,700 ถึง 9,000 รอบต่อนาที

การตอบสนองอย่างแม่นยำ

ระบบควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าที่มีความละเอียดสูงทั้ง 10 ชุดสามารถจ่ายอากาศไปยังกระบอกสูบทุกกระบอกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และเวลาการตอบสนองของเครื่องยนต์นั้น เร็วขึ้นกว่าครึ่งหากเปรียบเทียบกับระบบเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบควบคุมลิ้นปีก ผีเสื้อเพียง 1 ชุด

ระบบส่งกำลัง 6 สปีดแบบ Automated Sequential Gearbox (ASG) ชุดเฟืองวงแหวนซินโครไนซ์ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อความทนทาน มาพร้อมกับชุดเปลี่ยนเกียร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ที่ทำให้ผู้ขับขี่ สามารถสัมผัสได้ถึงจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์ นอกจากนี้ระบบเกียร์ชุดนี้งยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 รูปแบบ และยังมีระบบการปรับการตอบสนองความไวของการเปลี่ยนเกียร์ได้ถึง 7 ระดับ ตั้งแต่ 0.2 จนถึง 1.0 วินาที

จานเบรคคุณภาพสูง CCM (Carbon Ceramic Material) ขนาดเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่งขัน พร้อมระบบควบคุมเบรคแบบไฟฟ้า ทำให้ระบบเบรคมีแรงดันที่เหมาะสมในทุกสภาวะ เพื่อการตอบสนองที่ดีเยี่ยมและมั่นใจทุกครั้งที่หยุดรถ

การควบคุม

ห้องโดยสารแบบ CFRP ที่เบาและแข็งแรง ประกอบกับระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น และแบบมัลติลิ้งค์ในด้านหลัง ให้การควบคุมและการทรงตัวที่ดี การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ของส่วนประกอบต่างๆ อาทิ พื้นใต้ท้องที่ราบเรียบ แผ่นรีดลมและสปอยเลอร์ด้านหลัง ที่ทำให้ LFA เป็นรถที่มีความมั่นคงทุกย่านความเร็ว เพื่อผสานความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่กับเครื่องยนต์

ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) ที่รวมการทำงานของระบบควบคุมต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อรักษาการทรงตัวให้มีเสถียรภาพที่สุด โดยการทำงานจะไม่รบกวนการขับขี่ของผู้ขับ แม้ขณะขับขี่ในแบบสปอร์ต

เสียงเครื่องยนต์เร้าใจผสานเส้นสายการออกแบบ L-finesse(2)

ท่อไอเสียแบบคู่ หม้อพักไอเสียไทเทเนี่ยม ชุดปรับแต่งเสียงที่ต่อเชื่อมกับลิ้นปีกผีเสื้อทั้ง 10 ชุด และการเหลื่อมกันของเสียงจากการดูดอากาศและคายไอเสียในทุกๆ รอบความเร็วที่เป็นเอกลักษณ์ จะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ยิ่งขึ้น

การออกแบบภายนอกที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์และการจัดการการไหลของอากาศ และการใช้ CFRP ซึ่งนอกเหนือจากความแข็งแกร่งและข้อได้เปรียบทางด้านน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้การออกแบบภายนอกเป็นไปได้อย่างอิสระสะท้อนรูปลักษณ์ของรถซุป เปอร์คาร์อย่างแท้จริง สำหรับการออกแบบภายในที่โดดเด่น ทั้งแผงคอนโซลกลางที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เทคโนโลยีล้ำสมัยและลงตัวที่สุดด้วยวัสดุและสีภายในที่เจ้าของสามารถเลือก เองได้ (Custom-tailored) เพื่อตอบสนองความต้องการได้สูงสุด

(1) อ่างน้ำมันเครื่องจะถูกแยกออกจากระบบ เพื่อให้เครื่องยนต์มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อรับแรงเหวี่ยงด้านข้าง หรือ G-Force ได้สูง และลดแรงเสียดทาน ให้ความรู้สึกดุจเดียวกับรถแข่ง

(2) การผสมผสานของการออกอันก้าวล้ำและ 'Finesse' Design
เลกซัส LF-Ch

รถยนต์ต้นแบบสุดพิเศษ ที่ได้รวมเอาความเป็นเลิศด้านสมรรถนะในการขับขี่ควบคู่ไปกับการลดมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

- ขนาดกะทัดรัดแฮทแบ็ค 5 ประตู
- สุดยอดสมรรถนะในการขับขี่และรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบ Lexus Hybrid Drive
- มิติตัวรถ ความยาว 4,300 มม. ความกว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,400 มม.
- ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลัง 2,600 มม.
- ขนาดล้อหน้า 225/35R20 ล้อหลัง 225/35R20

เลกซัส นิยามว่าเป็นความอลังการ และสุดยอดสมรรถนะของนวัตกรรมยานยนต์ระดับหรูแห่งศตวรรษที่ 21 และมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแนะนำสุดยอดยนตรกรรมซึ่งดึงดูดทุกสัมผัส ไปพร้อมกับการช่วยอนุรักษ์โลกของเราให้ยั่งยืน